ตะลุยภูเก็ต กับกิจกรรมสุดมันที่ห้ามพลาดกับทริป 3 วัน 2 คืน กินเต็มเหนี่ยว เที่ยวเต็มที่
สวัสดีครับเพื่อน ๆ สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวภูเก็ต แต่ไม่รู้จะไปไหนดี วันนี้ผมมีสถานที่ ๆ ไม่ควรพลาดมาให้รู้จักกันครับ อยากบอกว่า ”ไม่ต้องเป็นหนี้ก็เที่ยวได้” เพราะโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินและที่พัก ราคาดีมาก ถือโอกาสทิ้งงาน แล้วมาชาร์จแบตให้เต็มพลัง ค่อยกลับไปลุยงานต่อ
ทำไมต้องไปภูเก็ต? เพื่อนที่ทำงานชอบถาม..ตอบไม่ถูกรู้แต่ว่าภูเก็ตสวยมากอยากไปบ่อย ๆ เพราะเวลามาภูเก็ตทีไรก็ร้อง โอ้โห! ทุกที ต้องบอกคำเดียวว่าใครไม่มาถือว่าพลาด เพราะชายหาดที่นี่น้ำใสมาก แอบหลงรักภูเก็ต วิวสวย อากาศดี อาหารก็อร่อย สมกับคำขวัญประจำจังหวัดเค้าจริง ๆ
“ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม "
แหลงมาซะยาวป่ะ! ไปดูรีวิวกันครับ (“แหลง” ภาษาใต้แปลว่า”พูด”เดี๋ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง 55)
วันที่ 1
เมื่อมาถึงภูเก็ต จุดเช็คอินที่แรก "หาดไม้ขาว"
จะบอกว่าเป็นหาดยอดฮิตอีกหนึ่งหาด เพราะหาดไม้ขาวช่วงเวลาเช้า - กลางวัน เป็นเวลาที่เครื่องบินลงมากที่สุด นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาถ่ายรูปคู่กับเครื่องบิน คูลไปอีกแบบ ดูจากภาพนี่ใกล้จนแทบจะแตะเครื่องบินได้เลย
ถ้าเพื่อน ๆ มาถึงที่หาดนี้ให้นำรถไปจอดบริเวณทางเข้า จากนั้นใช้บริการรถพ่วงของชาวบ้าน เข้าไปชายหาดค่าบริการเที่ยวละ 20 บาทต่อคน ผมว่าไม่แพงนะถือเป็นการช่วยให้ชาวบ้านแถวนั้นมีรายได้อีกด้วย
พอเราดื่มด่ำกับการถ่ายรูปเสร็จแล้ว ท้องนี่ร้องจ๊อก จ๊อก หิวไส้กิ่ว ผมกับแฟนเลยชวนกันเข้าเมืองไปหาของอร่อยกินกัน
เราแวะไปที่ร้าน "สภากาแฟ SR แต๋เตี้ยม"
เป็นอีกร้านนึงในภูเก็ต ที่ใคร ๆ ก็ต้องแวะมากิน ร้านนี้มีอาหารให้เลือกหลากหลาย ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูติ่มซำ และเมนูยอดฮิต คือ บักกุ๊ดเต๋ เอาไว้ซดคล่องคอ ไม่รู้ซดคล่องไปไหมโต๊ะข้าง ๆ นี่หันมามอง สงสัยจะซดดังไปหน่อย 5555 และอีกเมนูที่ผมชอบ คือ ซาลาเปาทอดไส้หมูแดง ไม่อยากใช้คำว่าอร่อยมาก เรียกว่าตั้งแต่เกิดมาร้านนี้อร่อยสุดเลย
ช่วงบ่ายไป adventure กันที่ "Hanuman World"
เป็นทริปที่นักผจญภัยไม่น่าพลาด ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็เล่นได้นะครับ การเล่น Zipline เราจะได้ปีนป่ายสู่ยอดไม้สัมผัสกับธรรมชาติ สูดอากาศให้ชุ่มปอด แต่ตอนผมไม่กล้าเล่น บรรยากาศสมัยเด็กที่เข้าค่ายลูกเสือนี่กลับมาเลย เสียวมากจำได้ว่าตอนเด็กร้องไห้จ๊าก แต่นั่นก็คืออดีต มาถึงที่แล้วไม่เล่นอายเด็กมัน เอ่าลุย!
และยังมีจุดที่อันซีนสุด ๆ ประทับใจมากนั่นคือ Sky Walk ให้เราได้เดินชมธรรมชาติโอ้ย..ผ่อนคลายมาก ไม่ต้องสืบว่าเมมที่เตรียมไปจะพอไหม รูปถ่ายนี่ไม่ต่ำกว่า 100 รูป อัพขึ้นโซเชียลได้หลายเดือน
พอเหนื่อยจากการผจญภัยก็แวะมาดับกระหายที่
"The Three Monkeys Restaurant"
เป็นคาเฟ่และร้านอาหารที่มาแรงในช่วงนี้ของภูเก็ตเป็นร้านที่อยู่ใจกลางเมือง แต่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ และต้นไม้ใหญ่ ให้เราได้ดื่มด่ำไปกับวิวสีเขียวตกแต่งออกแนวบาหลี มีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ ใครอยากมาเซอร์ไพรส์ขอแฟนแต่งงาน หรือบอกรักอะไรก็ว่าไป ผมว่าสมหวังทุกราย เพราะบรรยากาศในร้านสวยและโรแมนติกแบบธรรมชาติ แต่ควรโทรมาจองล่วงหน้าก็ดีนะครับ เพราะคนค่อนข้างเยอะไม่งั้นรอคิวนาน เดี๋ยวจะเกรี้ยวกราดไม่รู้นะ
ถึงเวลา Check in เราพัก ที่ "Patong Bay Hill Resort"
อย่างที่บอกโปรโมชั่นดีมาก และอีกอย่างใครที่มาป่าตองถ้าได้มาพักที่นี่ฟินไม่รู้ลืม ที่นี่มีแผนกต้อนรับบริการ 24 ชม. มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สะอาด พนง.พูดเพราะบริการดี สำหรับใครที่นำรถยนต์มาไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะไม่มีที่จอด ลานจอดรถกว้างขวาง จอดได้เพียบ เค้ามีบริการรับ-ส่ง ถึงหน้าตึกเลยครับ เนื่องจากบริเวณตึกที่พักไม่มีลานจอดรถ
ส่วนห้องพักนี่วิวดี มีสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้า มองออกไปก็เห็นวิวทะเล โอ้ยฟิน! ไม่อยากกลับบ้านเลย
มื้อเย็นวันแรก ขอฝากท้องที่ "โกเบ๊นซ์ข้าวต้มแห้งภูเก็ต"
คือทุกครั้งที่ผมมาภูเก็ตต้องมากินที่นี่ เมนูข้าวต้มแห้งนี่คือ ซิกเนเจอร์ เค้ามีน้ำซุปแยกให้ โรยด้วยกระเทียมเจียวหอม ๆ หร่อยอย่างแรง!! แล้วผมก็ชอบไปชมที่ร้านบอก “หร่อยจังฮู้” ทั้งพ่อครัว เด็กเสริฟ นี่ขำกระจาย ก็มันอร่อยจนอดชมไม่ได้จริงนะ บอกไว้ก่อนร้านนี้เค้าไม่ธรรมดา นอกจากจะเปิดแค่ช่วงเย็น ๆ แล้ว คิวยังยาวไปถึงกทม.เลยนะครับไม่ได้โม้นะ แนะนำให้มาวันธรรมดา ไม่อย่างนั้นก็ต้องรอคิวยาวปาย ยาวปาย
ปอลอ : ร้านโกเบ๊นซ์ปิดทุกวันพระ นะครับ ดูปฎิธินดี ๆ อ่ะ เดี๋ยวมาแล้วร้านปิดเสียรมณ์ไปอีก
กินอิ่มแล้วก็ต้องไปย่อย เราไปถ่ายรูปที่ Phuket Old Town
ที่สุดท้ายของวันนี้ เดินชิล ๆ ชมเมืองภูเก็ตในเวลากลางคืน ตามรอยประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างศิลปะตะวันตกและจีน มีการวาดภาพระบายสีผ่านอาคารสไตล์ชิโนโปรตุกีส เป็นมุมถ่ายรูปที่ชิค ๆ กับ Street Art ภูเก็ต ที่แทรกอยู่ตามตัวผนังอาคารในย่านเมืองเก่าภูเก็ต แน่นอนไม่ต่ำว่า 100 รูป
วันที่ 2
เริ่มด้วยการไป "วัดฉลอง"
เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต ใครที่มาเที่ยวภูเก็ตจึงนิยมแวะมานมัสการ หลวงพ่อแช่ม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง หยอดตู้ทำบุญแล้วก็ต้องขอพรสักหน่อย ไม่มากไม่มาย แค่แฟนบ่นว่าทำไมขอพรนานมาก ไม่ถูกหวยงวดนี้ให้มันรู้ไปคร้าบ สาธุ!
ต่อด้วยหาดแรก "หาดป่าตอง"
ทะเลจะไม่มีวันสวยหากขาดคนเดินเคียงข้าง และคนข้าง ๆ ผมก็สวยไม่แพ้ทะเลของหาดป่าตอง 5555 ชมแฟนตัวเองซะงั้น! ผมว่าไม่มีใครไม่รู้จักหาดป่าตอง เพราะทุกคนที่มาเที่ยวภูเก็ตต้องแวะมาที่นี่อย่างแน่นอน ป่าตองเป็นชายหาดที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร เครื่องเล่นทางน้ำ ทางอากาศ และหาดป่าตอง มีน้ำทะเลที่ใส และสวยงามมากเลยล่ะครับ แหมะ! เที่ยวทะเลทีไรก็นึกถึงเพลงนี้ทุกที “โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบ แล่นอยู่ในทะเล”
หาดที่ 2 "หาดกะรน"
หาดกะรน ชายหาดจะเป็นเส้นตรง ที่อยู่ระหว่างหาดป่าตองกับหาดกะตะ เป็นหาดที่มีถนนคั่นระหว่างที่พักกับหาด น้ำทะลก็สวยไม่แพ้หาดอื่น ดูได้จากนางแบบในภาพ ไม่ว่าจะโพสท่าไหนรูปที่ได้ก็ออกมาสวยไม่แพ้ทะเล
เริ่มหิวแล้วครับมื้อนี้ขอฝากท้องไว้ที่ "หาดราไวย์"
หาดราไวย์ยู่ไม่ไกลจากแหลมพรหมเทพเท่าไร ใครที่ชื่นชอบอาหารทะเลต้องมาที่นี่ เพราะมีร้านอาหารเยอะแยะมากมาย คึกคักตลอดสองข้างทาง ซึ่งจะเต็มไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสด ๆ ราคาไม่แพง เราสามารถซื้ออาหารทะเลแล้วนำไปให้ที่ร้านอาหารปรุงให้ได้ ทางร้านก็คิดค่าปรุงกันไป มื้อนี้กินจนพุงกาง สตางค์ยังเต็มกระเป๋า กินอิ่มแล้วก็ไม่พลาดเก็บรูปสวย ๆ หาดราไวย์น้ำทะเลจะค่อนข้างใส แต่หาดทรายไม่ขาวเหมือนกับหาดอื่น ๆ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มาจึงนิยมมาทานอาหารทะเล และมาถ่ายรูปกันครับ
ไปต่อที่ "หาดยะนุ้ย"
ใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกก็ตั้งใจว่าจะไปถ่ายรูปวิวสวย ๆ ที่แหลมพรหมเทพ พอขับรถมาระหว่างทางก็เจอกับหาดเล็ก ๆ ดูมินินอลมาก คือ "หาดยะนุ้ย" ชายหาดจะอยู่ติดกับแหลมพรหมเทพ และจุดชมวิวกังหันลม เห็นปุ๊ป! ตกหลุมรักในทันที น้ำทะเลสีฟ้าใส เม็ดทรายละเอียดนุ่มสบายเท้า วิวสวย เงียบสงบ ผู้คนไม่เยอะมาก หาดค่อนข้างเป็นส่วนตัวเหมาะกับการพักผ่อน และเล่นน้ำเป็นที่สุด ที่นี่ยังมีกิจกรรมพายเรือคายัคด้วยนะ ใครไม่กล้าพายก็แค่ถ่ายรูปอวดเพื่อนก็ได้ไม่มีใครรู้หรอก ฮ่า ฮ่า
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหาดทรายและโขดหิน นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมานอนอาบแดดกันครับ ความสุขเล็ก ๆ บนหาดสวย ๆ ผมไม่แปลกใจว่าทำไมชาวต่างชาติถึงชอบมาเที่ยวเมืองไทย หาดยะนุ้ยนี่วิวดีไม่แพ้แหลมพรหมเทพ เต็ม 10/10 ไปเลยครับ
จุด Check in ยังไม่หมดไปต่อกันที่ "จุดชมวิวกังหันลม"
จะตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถขับรถขึ้นไปได้ มีบริเวณจอดรถให้ครับ จุดชมวิวกังหันลมอยู่ไม่ไกล ห่างจากแหลมพรหมเทพเพียง 1.3 กิโลเมตร ใกล้ ๆ จุดชมวิว จะเป็นหาดยะนุ้ยกับหาดในหาน กังหันลมที่เราเห็นนั้นใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ จุดนี้จะมองเห็นวิวน้ำทะเลสีฟ้าคราม มองเห็นหาดยะนุ้ย กับหาดในหาน วิวสวยมาก ในช่วงเวลาตอนเย็นยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม คนไม่เยอะไม่ต้องต่อคิวถ่ายรูป แนะนำเลยครับ
เมื่อได้เวลาพระอาทิตย์ตกเราก็อยู่กันที่ "แหลมพรหมเทพ"
เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกให้เราได้ชมความงามลับขอบฟ้า ชมวิวเพลิน ๆ เพลงพี่ตูนก็แว่วมาในหัว “จะออกไปแตะขอบฟ้า สุดท้ายแม้โชคชะตาไม่เข้าใจ” ถ้าไม่ติดว่ามีงานรออยู่ ผมนี่จะเที่ยวภูเก็ตสักเดือนให้หายอยากไปเลย มาดื่มด่ำวิวกันต่อครับเดี๋ยวจะนอกเรื่องไปไกล แหลมพรหมเทพนั้นอยู่ใต้สุดของเกาะภูเก็ตมีลักษณะเป็นแหลมโค้งไล่ระดับสู่ท้องทะเล ใครที่มาเที่ยวภูเก็ตต้องแวะมาที่นี่กันแทบทุกคน ซึ่งช่วงเย็น ๆ จะมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปวิวพระอาทิตย์ตกเป็นจำนวนมาก ถึงแม้คนจะค่อนข้างเยอะ ก็ไม่สามารถบดบังความงามของทัศนียภาพยามเย็นได้เลย
วันที่ 3 วันสุดท้ายแล้ว เวลาช่างผ่านไปเร็วจริง ๆ
ไปเที่ยวมาหลายที่แล้วก่อนกลับไม่พลาดที่จะไปนมัสการ "พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือพระใหญ่"ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ขอให้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย
"พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือคนภูเก็ตนิยมเรียกว่าวัดพระใหญ่ ส่วนชาวต่างชาติจะเรียกว่าBig Buddha"ตั้งอยู่บนเขานาคเกิดมีความกว้าง: 25.45 เมตร ความสูง: 45 เมตร โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยหินอ่อนสีขาวหยกพม่า ลักษณะเด่นพระพุทธรูปปางมารวิชัยมีขนาดใหญ่มองเห็นได้รอบเกาะภูเก็ต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนามีลักษณะเป็นพุทธอุทยาน มีความร่มรื่น สวยงาม เป็นทั้งสถานที่ปฏิบัติธรรมและที่พักผ่อนหย่อนใจ เมื่อมองลงมาจากฐานองค์พระเราจะเห็นวิวของเมืองภูเก็ต สวยประทับใจมากครับ
ที่สุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ "หาดในยาง"
เป็นชายหาดที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ห่างจากสนามบินภูเก็ตเพียง 2 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่เงียบสงบ ความโดดเด่นของหาดนี้อยู่ที่น้ำทะเลใส หาดทรายสะอาด ถนนเลียบชายหาดยังร่มรื่นด้วยแนวต้นสนทั้งสองข้างทาง สวยไม่แพ้เกาะนามิ ที่เกาหลีเลยแหละผมว่า ส่วนด้านในอุทธยานฯ จะมีร้านค้า ขายโดย พ่อค้า แม่ค้าที่เป็นชาวบ้านแถวนั้น อาหารราคาไม่แพงเริ่มต้นที่หลักสิบ และใครอยากนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ก็มีบริการให้เช่าเสื่อด้วยนะครับ ผมไม่รอช้ารีบเช่าเสื่อไปนั่งชิล ๆ ครึ่งวันก่อนหลบบ้าน ทริปนี้ขอลาไปก่อนไว้พบกันทริปหน้านะครับ บ๊าย บาย
(ภาษาใต้วันละคำ หลบบ้าน แปลว่ากลับบ้านครับผม)
รีวิวโดย : Kae Wae ma
